“ฉนวนกันความร้อน” สำหรับงานระบบปรับอากาศ เป็น ฉนวนกันความร้อน ที่ใช้กับการหุ้มท่อปรับอากาศ ซึ่งผลิตขึ้นมาได้จากวัสดุหลายชนิด แต่ที่แนะนำใช้มากที่สุด คือ ฉนวนใยแก้ว อาทิ ฉนวนกันความร้อน SCG เพราะเป็นฉนวนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยังปลอดภัยกับสุขภาพอย่างแท้จริง
เนื่องด้วยผลิตขึ้นมาจากแก้วและกระจกเหลือใช้ ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกว่าปลอดภัย ทั้งนี้ ฉนวนกันความร้อนงานระบบปรับอากาศ จะนิยมใช้กันในงานหุ้มท่อลมปรับอากาศของอาคาร สำนักงาน ศูนย์การค้า และบ้านพักอาศัย
โดยหากต้องการใช้ฉนวนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว จำเป็นจะต้องติดตั้งอย่างถูกวิธีด้วย โดยมีแนวทางและข้อแนะนำในการติดตั้ง ดังต่อไปนี้
1.ก่อนติดตั้งฉนวนกันความร้อนต้องตรวจสอบความเรียบร้อยก่อน
แม้ฉนวนกันความร้อนจะมีคุณภาพมากแค่ไหน แต่หากดำเนินการติดตั้งไปโดยที่ไม่ได้ตรวจสอบท่อลมปรับอากาศก่อน ประสิทธิภาพในการใช้งานฉนวนก็จะลดน้อยลง
ดังนั้น อันดับแรกก่อนการติดตั้งฉนวนกันความร้อนสำหรับงานระบบปรับอากาศ จึงต้องมีการสำรวจตรวจเช็คพื้นผิวของท่อลมเสียก่อน
โดยต้องตรวจดูให้รอบคอบว่า ท่อลมสะอาดหรือไม่ กล่าวคือ ต้องเช็ดทำความสะอาดให้ท่อลมปรับอากาศแห้ง ปราศจากสนิม คราบน้ำมัน และนอกจากความสะอาดแล้ว
อีกสิ่งสำคัญที่ต้องพึงระวังเลยคือ ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีรอยรั่วอยู่ โดยควรทำการทดสอบรอยรั่วทุกจุดก่อนดำเนินการหุ้มฉนวนกันความร้อน
2.ตรวจสอบขนาดท่อลมเพื่อการตัดขนาดฉนวนกันความร้อนที่เหมาะสม
หลังจากทำความสะอาดและตรวจสอบรอยรั่วจนมั่นใจแล้ว ลำดับต่อไปคือการวัดขนาดของท่อลมปรับอากาศเพื่อให้ตัดฉนวนกันความร้อนให้มีขนาดเหมาะสมกับการใช้งาน
โดยนอกจากการตัดฉนวนหุ้มท่อตามขนาดแล้ว ควรตัดฉนวนบริเวณริมออกประมาณ 50 มม. โดยให้เหลือวัสดุปิดผิวส่วนที่เป็นปีกไว้ เพื่อใช้ซ้อนทับรอยต่อของฉนวนให้เรียบร้อยในตอนหุ้มฉนวนเข้ากับท่อลม
3.หุ้มฉนวนกันความร้อนกับท่อลมปรับอากาศ
เมื่อตัดฉนวนกันความร้อนตามขนาดที่ต้องการได้แล้ว ในการหุ้มฉนวนเข้ากับท่อลมปรับอากาศนั้น ต้องหุ้มให้รอยต่อแนบกันสนิท ให้ปีกซ้อนทับปลายอีกด้านหนึ่งของฉนวน
หลังจากนั้นให้ใช้เทปอลูมิเนียมฟอยล์ที่มีขนาดมากกว่า 2.5 นิ้วขึ้นไป ปิดรอยต่อของฉนวนที่ติดกันทุกด้านอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าฉนวนกันความร้อนได้หุ้มปิดท่อลมปรับอากาศสนิททุกจุดแล้ว
ทั้งนี้ ในการหุ้มฉนวนกับท่อลมปรับอากาศนั้น ควรระมัดระวังความหนาของฉนวนบริเวณมุมท่อทรงสี่เหลี่ยมด้วย โดยต้องหุ้มให้ได้ตามรูปทรง ไม่โค้งงอบิดเบี้ยว
4.ตรวจสอบความเรียบร้อยของวัสดุปิดผิว
หลังจากใช้หุ้มฉนวนกันความร้อนเรียบร้อยแล้ว ควรดำเนินการตรวจสอบดูวัสดุปิดผิวรอบด้านว่ามีรอยรั่วหรือไม่ พบรอยถลอกหรือมีการฉีกขาดหรือไม่ หากพบว่ามีรอยรั่วหรือรอยถลอกฉีกขาด ควรใช้เทปอลูมิเนียมฟอยล์ปิดทับบริเวณดังกล่าวให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้มีรอยรั่วเหลืออยู่
เพราะรอยรั่วในการหุ้มฉนวนนั้น จะทำให้เกิดความชื้นและไอน้ำสะสมในเนื้อฉนวน ส่งผลต่อคุณภาพการใช้งานที่ไม่ยาวนาน และคุณสมบัติในการกันความร้อนจะด้อยลงไม่มีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ หากท่อลมปรับอากาศของเรามีขนาดกว้างมากกว่า 24 นิ้วขึ้นไป ควรมีการใช้ตัวยึดเพื่อยึดฉนวนให้แนบสนิทกับผิวท่อให้ได้มากที่สุด โดยยึดติดไว้บริเวณด้านล่างของท่อภายในทุกระยะไม่เกิน 18 นิ้ว เพื่อให้ฉนวนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ฉนวนกันความร้อน สำหรับงานระบบปรับอากาศ จำเป็นต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมาตรฐาน เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานสามารถป้องกันการควบแน่นเป็นหยดน้ำได้ รักษาอุณหภูมิภายในท่อปรับอากาศได้ และช่วยประหยัดพลังงานได้จริงตามเป้าหมายที่ต้องการ
ซึ่งสำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่กำลังมองหาฉนวนกันความร้อนสำหรับหุ้มท่อลมปรับอากาศไปใช้งานในอุตสาหกรรมหรือธุรกิจของตัวเองอยู่ล่ะก็ ฉนวนกันความร้อน SCG ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์
ด้วยเป็นฉนวนใยแก้วสีเขียวแบบม้วน ปิดผิวหน้าด้านหน้าด้วยแผ่นอลูมิเนียมฟอยล์ ได้รับ มอก. และมาตรฐานสากล ASTM โดยหากสนใจขอคำแนะนำ หรือปรึกษาเรื่องการติดตั้งฉนวนอุตสาหกรรม สามารถติดต่อได้ผ่านทางออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงได้เลย